โรคปอดอักเสบจากเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ เริ่มระบาดในหลายประเทศรวมถึงประเทศไทย กรมอนามัย แนะนำประชาชนยึดหลัก กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ สร้างสุขอนามัยที่ดีเป็นเกราะป้องกันการแพร่ระบาด
พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย ให้ข้อมูลว่า โรคปอดอักเสบจากเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ เกิดจากการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ ที่พบได้ทั้งการติดเชื้อไวรัส แบคคทีเรีย และสันนิษฐานว่าทำให้เกิดอาการอักเสบของถุงลม ปอด และเนื้อเยื่อโดยรอบ โดยมีอาการไข้ ไอ หายใจเหนื่อยหอบ และเป็นโรคติดต่อได้จากการสัมผัสฝอยละอองที่ผู้ป่วยไอ จาม เมื่อมือสัมผัสอาจผ่านเข้าสู่ร่างกายได้
ประชาชนจึงควรดูแลสุขอนามัยของตนเอง เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อโรคไปยังผู้อื่น โดยให้ยึดหลัก “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ” กินอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ในกรณีข้าวกล่อง อาหารถุง ต้องนำมาอุ่นให้ร้อนก่อนทุกครั้ง ใช้ช้อนกลางในการตักอาหารเมื่อกินอาหารร่วมกับผู้อื่น รวมทั้งหลีกเลี่ยงการใช้ภาชนะอื่นๆ ร่วมกัน
ที่สำคัญล้างมือก่อนและหลังกินอาหาร รวมถึงหลังการใช้ส้วมด้วย เพราะในชีวิตประจำวันคนเราใช้มือหยิบจับสิ่งต่างๆ อีกทั้งมือยังสามารถนำเชื้อโรคไปปนเปื้อนสิ่งของรอบตัว ซึ่งผู้อื่นอาจได้รับเชื้อโรคไปด้วย การล้างมือจึงเป็นวิธีที่ง่ายและสำคัญเพื่อป้องกันโรค
ทั้งนี้ การล้างมืออย่างถูกวิธีให้ปฏิบัติตาม 7 ขั้นตอนง่ายๆ
- ฝ่ามือถูกัน
- ฝ่ามือถูหลังมือและนิ้วถูซอกนิ้ว
- ฝ่ามือถูฝ่ามือและถูกซอกนิ้ว
- หลังนิ้วมือถูฝ่ามือ
- ถูนิ้วหัวแม่มือโดยรอบด้วยฝ่ามือ
- ปลายนิ้วมือถูฝ่ามือ
- ถูรอบข้อมือโดยล้างมือด้วยน้ำและสบู่ หรือแอลกอฮอล์สำหรับล้างมือ เพื่อลดโอกาสการติดเชื้อโรคได้ถึงร้อยละ 50
หากเดินทางในต่างประเทศ ควรหลีกเลี่ยงสถานที่แออัด หรือสถานที่ที่มีมลภาวะ และไม่อยู่ใกล้ผู้ป่วยไอ จาม หากเลี่ยงไม่ได้ให้ใส่หน้ากากอนามัยป้องกัน หลีกเลี่ยงการเข้าไปในตลาดค้าสัตว์มีชีวิต โดยเฉพาะสัตว์ที่ป่วยหรือตาย รวมทั้งงดกินอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ที่ไม่ปรุงสุก ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น ผ้าเช็ดหน้า แก้วน้ำ ผ้าเช็ดตัว เนื่องจากเป็นเชื้อก่อโรคระบบทางเดินหายใจสามารถเข้าสู่ร่างกายได้
ที่สำคัญควรรักษาร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ หากพบมีไข้ มีอาการทางระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบ ให้สวมหน้ากากอนามัย และรีบพบแพทย์ทันที